พระปฐมเจดีย์เป็นวัดที่เราให้ความสำคัญและมากราบสักการะเป็นประจำทุกปี สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงพระปฐมเจดีย์แล้วนั้นก็คือ 1. พระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรมโมภาส มหาวชิราวุธ ราชปูชนียบพิตร ประดิษฐานที่วิหารทิศเหนือ เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ มีความสูง 6 เมตร ใต้ฐานเป็นที่บรรจุพระอังคารของรัชกาลที่ 6 หากผู้ใดที่เดือดร้อน มีปัญหาครอบครัว ธุรกิจมีปัญหา ให้มากราบไหว้ จะทำให้เราผ่านพ้นวิกฤติและอุปสรรคต่างๆไปได้ เมื่อกราบพระร่วงแล้วเดินไปด้านหลัง กราบพระพุทธเจ้าน้อย และ ไหว้พระป่าเลไลย์ 2.องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ทรงระฆังคว่ำ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ สามารถเดินรอบพระอารามชั้นนอกหรือชั้นในโดยให้เดินเวียนให้ครบ 3 รอบ จากนั้นอธิษฐานจิต ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้พรที่ขอนั้นสำเร็จสมดังความตั้งใจ 3.ระเบียงคด รอบฐานเจดีย์มี ระเบียงคด ล้อมรอบเป็นวงกลม และมีพระพุทธรูปปางต่างๆ มากมาย และมีป้ายข้อมูลติดไว้อธิบายพระพุทธรูปเพื่อให้เข้าใจ 4.พระพุทธรูปศิลาขาว พระพุทธรูปศิลาขาว เป็นพระพุทธรูปสมัยทวารวดีปางปฐมเทศนา มีอายุมากว่าหนึ่งพันปี ตั้งอยู่ทางทิศใต้ขององค์ปฐมเจดีย์ 5.พระพุทธไสยาสน์ ในพระวิหารด้านทิศตะวันตก ภายในวิหารหลังนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธไสยาสน์ ยาว 17 เมตร ที่มีความงดงามมาก 6.วิหารหลวงด้านทิศตะวันออก ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางตรัสรู้อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว 7. วิหารปัญจวัคคีย์ด้านทิศใต้ ภายในวิหารมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยสดงดงามเป็นอย่างมาก ที่จอดรถกว้างขวางมากและมีทุกทิศของทางเข้า

พระปฐมเจดีย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวไทย และชาวนครปฐม มานครปฐมที่แรกต้องมาที่นี้ วัดสวยคนจะเยอะ มาไหว้พระทำบุญอิ่มบุญ สุขใจ เจดีย์สีทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายในวัดมีพระร่วงวยงามมาก และยัง มีพิพิธภัณฑ์ของทางวัดให้เดินชมถ้ามีเวลาห้ามพลาด ---------------------------------------------------- ประวัติความเป็นมา พระปฐมเจดีย์ หรือเดิมเรียกว่า พระธมเจดีย์ มีฐานะเป็นมหาธาตุหลวง ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชวินิจฉัยว่า พระธมเจดีย์องค์นี้อาจเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเมื่อคราวที่พระสมณทูตในพระเจ้าอโศกมหาราชเดินทางมาเผยแผ่ศาสนายังสุวรรณภูมิก็เป็นได้ เพราะพระเจดีย์เดิมมีลักษณะทรงโอคว่ำหรือทรงมะนาวผ่าซีกแบบเดียวกับพระสถูปสาญจี แต่ปรากฏว่ามียอดเป็นแบบปรางค์ ซึ่งพระองค์ฯ มีพระราชวินิจฉัยว่า อาจมีเจ้านายพระองค์ใดมาบูรณะไว้ก็เป็นได้ ซึ่งตรงกับความในศิลาจารึกหลักที่ 2 (ศิลาจารึกวัดศรีชุม) ของพระมหาเถรศรีศรัทธา อันได้กล่าวไว้ว่า พระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ท่านทรงได้แวะมาบูรณะพระธมเจดีย์องค์นี้ ก่อนที่ท่านจะเดินทางกลับ เมืองราด เมื่อคราวที่ท่านเสด็จกลับจากศึกษาศาสนาพุทธในประเทศศรีลังกา ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานนามใหม่ว่าพระปฐมเจดีย์ ในเรื่องนี้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีบางท่านได้ระบุว่า พระปฐมเจดีย์ไม่ได้เป็นเจดีย์ที่เก่าที่สุดของสุวรรณภูมิ แต่เป็น พระมหาธาตุหลวง ในยุคทวารวดีมากกว่า เนื่องด้วยเหตุผลประกอบหลายประการ โดยเฉพาะการค้นพบเจดีย์ที่มีอายุเก่าแก่กว่าพระธมเจดีย์และหลักฐานลายลักษณ์อักษร ที่ระบุว่า " พระเจดีย์องค์นี้ เดิม ขอมเรียก พระธม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาวขอมจริงๆ หรือชาวลวรัฐ ซึ่งสมัยนั้นเราก็เรียกว่าขอม เช่น ขอมสบาดโขลญลำพง คำว่า ธม สำหรับ ชาวขอม นั้น แปลว่า ใหญ่ ตรงกับคำเมืองว่า หลวง ซึ่งเราก็เรียกพระนครธม ว่า พระนครหลวง ด้วยเหตุผลเดียวกัน นอกจากนี้วัดพระปฐมเจดีย์ยังเป็นที่พระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสรีรางคารพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีในรัชกาลที่ 6 และพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ซึ่งบรรจุไว้ที่ผนังเบื้องหลังพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่พระวิหารทิศเหนือ องค์พระปฐมเจดีย์ อ้างอิงข้อมูลจาก wikipedia